เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่จังหวัดอิชิคาวะ ประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างพื้นฐานและเศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่นอย่างรุนแรง
จากข้อมูลของสำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น แผ่นดินไหวดังกล่าวมีศูนย์กลางอยู่ที่ระดับความลึก 10 กิโลเมตร นอกชายฝั่งของจังหวัดอิชิคาวะ มีขนาด 7.6 แมกนิจูด แรงสั่นสะเทือนสามารถรับรู้ได้ในหลายพื้นที่ของประเทศญี่ปุ่น รวมถึงกรุงโตเกียว
ผลกระทบจากแผ่นดินไหวในครั้งนี้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 73 ราย และบาดเจ็บกว่า 1,000 ราย นอกจากนี้ ยังมีประชาชนจำนวนมากติดค้างอยู่ภายใต้ซากปรักหักพัง เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง
นอกจากความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินแล้ว แผ่นดินไหวในครั้งนี้ยังส่งผลกระทบต่อโครงสร้างพื้นฐานของประเทศญี่ปุ่นอย่างรุนแรง อาคารบ้านเรือนได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ถนนและสะพานหลายแห่งถูกตัดขาด รถไฟและเครื่องบินต้องหยุดให้บริการ ส่งผลกระทบต่อการเดินทางและการขนส่งสินค้า
รัฐบาลญี่ปุ่นได้ประกาศภาวะฉุกเฉินในจังหวัดอิชิคาวะและจังหวัดใกล้เคียง เพื่อเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยและบรรเทาความเดือดร้อน
จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบางของประเทศญี่ปุ่นต่อภัยธรรมชาติ โดยเฉพาะแผ่นดินไหวและสึนามิ ประเทศญี่ปุ่นตั้งอยู่บนแนวรอยเลื่อนแปซิฟิก ซึ่งเป็นบริเวณที่มีแผ่นดินไหวและสึนามิเกิดขึ้นบ่อยครั้ง
จากข้อมูลของสำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น ญี่ปุ่นประสบเหตุแผ่นดินไหวขนาดใหญ่มาแล้วหลายครั้ง หนึ่งในเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่รุนแรงที่สุดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2554 มีศูนย์กลางอยู่ที่จังหวัดโทโฮกุ มีขนาด 9.0 แมกนิจูด ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 18,000 ราย และบาดเจ็บกว่า 6,000 ราย
เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่จังหวัดอิชิคาวะในครั้งนี้ ถือเป็นสัญญาณเตือนภัยธรรมชาติครั้งสำคัญสำหรับประเทศญี่ปุ่นและประเทศอื่นๆ ทั่วโลก ที่ต้องเตรียมความพร้อมรับมือกับภัยธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ