ก.ย.พ.ต.ท.ประสงค์ วงษ์สิน รอง.ผกก.(สอบสวน) สภ.บุ่งคล้า อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ ได้รับแจ้งจากนายบุญอุ้ม สุนิกุล ที่ล่องเรืออยู่กลางน้ำโขงเพื่อดักจับเก็บเอากิ่งไม้ขอนไม้ที่ลอยตามน้ำมา เพื่อเก็บไว้ทำฟืนในฤดูแล้งว่าได้พบซากศพอยู่ใต้ต้นไม้กอหญ้าขนาดเล็กริมตลิ่งน้ำโขง อยู่ที่ชายตลิ่งบริเวณหลังป่าช้าบ้านห้วยเล็บมือ หมู่ที่ 5 ตำบลหนองเดิน อำเภอบุ่งคล้า จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ออกไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมด้วยนายสมัย หล้ากัญญา กำนันตำบลหนองเดิน ตำรวจพิสูจน์หลักฐานบึงกาฬ แพทย์เวร รพ.บุ่งคล้า และหน่วยกู้ภัยสว่างศรีวิไลจุดบุ่งคล้า ครั้งแรกที่พบไม่ทราบว่าศพนี้เป็นเพศหญิงหรือเพศชาย เพราะสภาพศพเน่าเปื่อยและแห้งกรัง เปื้อนดินโคลน จนมองไม่ออกสภาพร่างกายประกอบกับผิวเนื้อตามแข้งขาก็หลุดลุ่ยออกบางส่วน ถูกสัตว์น้ำกัดแทะจนเห็นกระดูก หลังจากนั้นหน่วยกู้ภัยจึงนำกะโหลกศีรษะที่เส้นผมร่วงหล่นไป และเปื้อนดินโคลนไปล้างน้ำโขง พร้อมกับกางเกงที่สวมใส่ จากนั้นทำให้แพทย์สามารถชันสูตรได้ จึงทราบว่าซากศพนี้เป็นเพศหญิงความสูงประมาณ 150 เซนติเมตรใส่กางเกงหัวยืดขาสามส่วนสีน้ำเงินอายุประมาณ 50-60 ปี เส้นผมที่มีอยู่มีสีดำแซมขาว ส่วนที่บริเวณกะโหลกศีรษะด้านขวามีรอยยุบคาด คล้ายจะถูกตีด้วยของแข็ง หรืออาจมาจากสาเหตุขณะศพลอยตามน้ำไปกระแทกกับโขนหิน ช่วงที่มีน้ำขึ้นไหลแรง คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 14 วัน