สับปะรดเป็นผลไม้ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย เนื่องจากมีรสชาติอร่อยและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ สับปะรดในประเทศไทยมีหลากหลายสายพันธุ์ ซึ่งแต่ละสายพันธุ์จะมีรสชาติ กลิ่น และลักษณะที่แตกต่างกันไป
สับปะรดในประเทศไทย มีประมาณ 20 สายพันธุ์ สายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ได้แก่
- สับปะรดปัตตาเวีย เป็นสายพันธุ์ที่พบมากในประเทศไทย ผลใหญ่ เนื้อสีเหลือง หวานฉ่ำ
- สับปะรดภูเก็ต ผลเล็ก เปลือกหนา เนื้อสีเหลือง หวานหอม
- สับปะรดนางแล ผลขนาดเล็ก เปลือกบาง เนื้อสีเหลืองทอง หวานอมเปรี้ยว
- สับปะรดศรีราชา ผลขนาดใหญ่ เนื้อสีเหลือง หวานฉ่ำ มีกลิ่นหอม
- สับปะรดตราดสีทอง ผลขนาดใหญ่ เนื้อสีเหลืองทอง หวานฉ่ำ เปลือกหนา
สับปะรดหอมสุวรรณ เป็นสายพันธุ์ที่พัฒนาขึ้นโดยกรมวิชาการเกษตร มีลักษณะเด่นคือ ผลขนาดใหญ่ เนื้อสีเหลืองทอง หวานฉ่ำ มีกลิ่นหอม เหมาะสำหรับรับประทานสดหรือนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น น้ำสับปะรด แยมสับปะรด เยลลี่สับปะรด เป็นต้น
ประโยชน์ของสับปะรด
สับปะรดเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง โดยอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ เช่น วิตามินซี วิตามินอี โพแทสเซียม แคลเซียม และฟอสฟอรัส
ประโยชน์ของสับปะรดต่อสุขภาพ
สับปะรดมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย ดังนี้
- ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน เนื่องจากสับปะรดมีวิตามินซีสูง ซึ่งช่วยต้านอนุมูลอิสระและช่วยป้องกันการติดเชื้อ
- ช่วยบำรุงผิวพรรณ เนื่องจากสับปะรดมีวิตามินซีสูง ซึ่งช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสียหายและช่วยให้ผิวพรรณสดใส
- ช่วยย่อยอาหาร เนื่องจากสับปะรดมีไฟเบอร์สูง ซึ่งช่วยในการย่อยอาหารและป้องกันโรคท้องผูก
- ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง เนื่องจากสับปะรดมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ซึ่งช่วยป้องกันเซลล์จากการถูกทำลายและช่วยป้องกันโรคมะเร็ง
การรับประทานสับปะรด
สับปะรดสามารถรับประทานสดหรือนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้ ดังนี้
- รับประทานสด โดยการแกะเปลือกออกแล้วรับประทานเนื้อสดๆ
- นำไปแปรรูปเป็นน้ำผลไม้ โดยนำสับปะรดมาปั่นหรือคั้นเป็นน้ำผลไม้
- นำไปแปรรูปเป็นแยม โดยนำสับปะรดไปต้มแล้วเติมน้ำตาลจนข้น
- นำไปแปรรูปเป็นเยลลี่ โดยนำสับปะรดไปต้มแล้วเติมผงวุ้นจนข้น
สับปะรดเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย นิยมรับประทานกันทั่วไปในประเทศไทย