The Wages of Fear ฉบับปี 2024 ที่เพิ่งเข้าฉายไปเมื่อไม่นานนี้ สร้างกระแสทั้งความสนใจและความผิดหวัง หนังเรื่องนี้เป็นการหยิบเอา The Wages of Fear (1953) ภาพยนตร์นีโอ-นัวร์ (Neo-Noir) สัญชาติฝรั่งเศสสุดคลาสสิค ผลงานกำกับของ Henri-Georges Clouzot กลับมาสร้างใหม่ โดยได้ Luc Leclerc มารับหน้าที่ผู้กำกับ แม้จะใช้โครงเรื่องหลักของการเอาชีวิตรอดบนเส้นทางขนส่งไนโตรกลีเซอรีน วัตถุระเบิดสุดอันตราย แต่น่าเสียดายที่หนังรีเมคยังไปไม่ถึงฝั่งฝัน
จุดแข็งที่มี แต่ยังไม่ชนะใจ
- กลิ่นอายของต้นฉบับ: หนังรีเมคยังคงรักษาโครงเรื่องพื้นฐานของการเอาชีวิตรอดบนถนนสู่เหวนรกเอาไว้ การเผชิญหน้ากับความตายทุกวินาที และความกดดันอันแสนสาหัสของการขนส่งไนโตรกลีเซอรีน ยังคงเป็นหัวใจสำคัญ ฉากการขับรถบรรทุกบนเส้นทางที่แสนโหดร้าย เต็มไปด้วยหลุมบ่อ ก็ยังสร้างความหวาดระทึกให้กับผู้ชมได้อยู่บ้าง
- ภาพยนตร์สวยงาม แต่ขาดบรรยากาศ: The Wages of Fear (2024) มีภาพยนตร์ที่สวยงาม คมชัด สื่อถึงสภาพแวดล้อมอันร้อนระอุ และเต็มไปด้วยความแห้งแล้งของเมือง Los Robles ได้เป็นอย่างดี ทว่า หนังกลับขาดเสน่ห์ในการสร้างบรรยากาศแบบ “ช้า แต่ชวนกดดัน” ซึ่งเป็นจุดเด่นของต้นฉบับ
จุดอ่อนที่ฉุดรั้ง
- ตัวละครล่องลอย ขาดมิติทางอารมณ์: The Wages of Fear (1953) ประสบความสำเร็จอย่างมากในการปูพื้นเรื่องราว และถ่ายทอดปม ความสิ้นหวัง ของตัวละครทั้ง 4 คน ไม่ว่าจะเป็น Luigi (Yves Montand) อดีตนักมวยปล้ำผู้หมดไฟ หรือ Mario (Charles Vanel) ผู้ต้องโทษหนีคุก ผู้ชมต่างรู้สึกเห็นอกเห็นใจ และผูกพันกับตัวละคร ลุ้นระทึกไปกับการตัดสินใจ และการกระทำของพวกเขาบนเส้นทางเสี่ยงตาย
น่าเสียดายที่หนังรีเมคในปี 2024 ละเลยรายละเอียดเหล่านี้ หนังโฟกัสไปที่ “แอคชั่น” และ “ความตื่นเต้น” มากกว่าการพัฒนาตัวละคร เราแทบจะไม่ได้เห็นที่มา แรงขับ หรือความสิ้นหวังที่บีบคั้นพวกเขา กลายเป็นตัวละคร “ผู้ชาย 4 คน” ที่ต้องไปเสี่ยงตาย โดยที่ผู้ชมไม่ได้ผูกพัน หรือรู้สึกเห็นใจพวกเขามากพอ
- สูตรสำเร็จ แต่ไร้ซึ่งความคลาสสิค: The Wages of Fear (2024) อาจจะเดินตามสูตรสำเร็จของหนังแอคชั่นทั่วไป ที่เน้นความรวดเร็ว ฉากบู๊ การตัดสลับภาพ และการหักมุม ซึ่งตรงกันข้ามกับต้นฉบับที่เน้นการสร้างบรรยากาศ ความกดดันทางจิตใจแบบช้าๆ การใช้เสียง “กึก” ทุกครั้งที่รถบรรทุกกระแทกหลุม หรือการสั่นสะเทือนเล็กน้อย ล้วนสร้างความหวาดระทึก และสะกิดต่อมคิดของผู้ชมให้รับรู้ถึงความเปราะบางของชีวิต
การที่หนังรีเมคเลือกเส้นทางสายแอคชั่น อาจจะทำให้หนังดูสนุก ตื่นเต้น แต่ก็แลกมาด้วยการสูญเสียความ “คลาสสิค” และ “เหนือกาลเวลา” ที่ต้นฉบับมี
สรุป หนังรีเมคที่ยังไปไม่ถึงฝั่ง คะแนน: 5.5/10
