เกิดเหตุอาคารพังถล่มในย่านเปาลิสตา ชานนครเรซิเฟ รัฐเปรูนัมบูกู ประเทศบราซิล เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 14 ราย ซึ่งผู้เสียชีวิตเหล่านี้มีทั้งชาย หญิง และเด็กอายุ 5 ขวบ อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ของหน่วยกู้ภัย สามารถช่วยชีวิตจากซากปรักหักพังมาได้ 3 ราย เป็นสตรีอายุ 65 ปี 1 ราย และคนวัยหนุ่มสาว 2 ราย
โดยเจ้าหน้าที่ของสำนักงานป้องกันภัยพลเรือนของรัฐเปรูนัมบูกู เปิดเผยว่า อาคารหลังที่เกิดเหตุมีขนาด 3 ชั้น ถูกสร้างใกล้กับอาคารหลังหนึ่งที่มีขนาดสูงใหญ่กว่า และถูกปิดไปตั้งแต่ปี 2020 (พ.ศ. 2563) เพราะมีความเสี่ยงที่จะพังถล่ม อย่างไรก็ตาม ได้มีผู้คนจำนวนหนึ่งเข้าไปครอบครองอย่างผิดกฎหมายนับตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมา ก่อนที่อาคารจะพังถล่มในที่สุด
สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ ยังไม่เป็นที่แน่ชัด แต่คาดว่าอาจเกิดจากหลายปัจจัย เช่น สภาพอาคารที่เก่าแก่และทรุดโทรม สภาพอากาศที่ฝนตกหนัก และน้ำหนักของผู้คนจำนวนมากที่เข้าไปอาศัยอยู่ในอาคาร
อุบัติเหตุครั้งนี้ สร้างความโศกเศร้าให้กับชาวบราซิลเป็นอย่างมาก รัฐบาลบราซิลได้ประกาศให้วันพุธที่ 13 เมษายน เป็นวันไว้อาลัยผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์อาคารพังถล่ม
อุบัติเหตุครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัยในบราซิล พบว่ามีผู้คนจำนวนมากที่อาศัยอยู่ในอาคารเก่าแก่และทรุดโทรม ซึ่งเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุได้ทุกเมื่อ รัฐบาลบราซิลจำเป็นต้องเร่งแก้ไขปัญหานี้ เพื่อความปลอดภัยของประชาชน